Dora and the Search for Sol Dorado (2025)

รีวิวหนังเรื่อง Dora and the Search for Sol Dorado (2025)

Dora and the Search for Sol Dorado (2025) ปีที่แฟน ๆ การ์ตูนและภาพยนตร์แนวผจญภัยทั่วโลกต่างตั้งตารอ เพราะนี่คือการกลับมาของ Dora the Explorer ในรูปแบบภาพยนตร์ผจญภัยฟอร์มยักษ์ที่ยกระดับขึ้นกว่าเดิม หลังจาก Dora and the Lost City of Gold (2019) ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ครั้งนี้สตูดิโอจึงทุ่มงบประมาณอย่างมหาศาลเพื่อสร้างภาคใหม่ในชื่อ Dora and the Search for Sol Dorado (2025) เรื่องราวครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการค้นหาขุมทรัพย์ธรรมดา แต่ยังถูกออกแบบให้สะท้อนการเติบโตของตัวละครโดร่า ที่ก้าวจากการเป็นนักสำรวจวัยรุ่น ไปสู่ผู้นำทีมผจญภัยเต็มตัว พร้อมเผชิญหน้ากับบททดสอบที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต

ภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยฉากทิวทัศน์ป่าลึกในทวีปอเมริกาใต้ เสียงเล่าขานของชนเผ่าโบราณดังขึ้นเล่าถึง “โซล โดราโด” เมืองทองคำที่ถูกกล่าวขานว่ามีสมบัติและพลังอำนาจลี้ลับมากมาย เมืองนี้หายสาบสูญไปนานนับศตวรรษ เชื่อกันว่ามี “กุญแจแห่งพระอาทิตย์” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในการเปิดเส้นทางสู่เมืองทอง ตัดมาที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัย โดร่า (Isabela Moner กลับมารับบทเดิม) กำลังศึกษาตำราโบราณพร้อมทีมเพื่อนสนิท ดิเอโก้, บูทส์ (ลิงคู่ใจ), และอเลฮานดร้า เพื่อนนักโบราณคดีหญิง พวกเขาพบแผนที่ลึกลับที่ชี้เส้นทางไปยังโซล โดราโด ซึ่งต่างจากข้อมูลทั่วไปที่เคยเชื่อกันมา ทันใดนั้นข่าวการค้นพบก็รั่วไหลไปถึงกลุ่มนักล่าสมบัติที่นำโดย “วิกเตอร์ กราเซน” นักธุรกิจผู้ละโมบและโหดเหี้ยมที่ต้องการครอบครองพลังจากเมืองทอง

โดร่าและทีมของเธอออกเดินทางลึกเข้าสู่ป่าดงดิบด้วยความตื่นเต้นและกังวล การผจญภัยครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหน เพราะไม่ใช่แค่การสำรวจ แต่ยังต้องแข่งกับเวลาและหลบเลี่ยงนักล่าสมบัติที่ไล่ตามมาติด ๆ พวกเขาเผชิญกับอุปสรรคตั้งแต่แรก เช่น การข้ามสะพานไม้เก่าแก่ที่เสี่ยงจะขาด anytime, ฝูงสัตว์ป่าอันตราย และแม่น้ำเชี่ยวกราก แต่ด้วยไหวพริบและการร่วมมือกัน ทีมก็สามารถผ่านไปได้

ในระหว่างทาง พวกเขาเจอกับสัญลักษณ์แกะสลักตามหน้าผาและวัดโบราณ โดร่าต้องใช้ความรู้ภาษาละตินและอินคาในการไขปริศนา หลายฉากทำออกมาในสไตล์ Indiana Jones ผสม Tomb Raider แต่ยังคงความสดใสแบบ Dora เช่น มีการร้องเพลงสั้น ๆ เวลาหาคำตอบสำเร็จหนึ่งในปริศนาสำคัญคือประตูหินที่มีสัญลักษณ์รูปพระอาทิตย์ ต้องจัดเรียงหินให้ตรงกับวันสุริยุปราคา ทีมของโดร่าทำสำเร็จ แต่กลุ่มวิกเตอร์ก็แอบสะกดรอยตามมาใกล้เรื่อย ๆ

กลางป่าโดร่ากับเพื่อน ๆ ถูกซุ่มโจมตีโดยลูกน้องของวิกเตอร์ เกิดการไล่ล่าระทึก บูทส์ใช้ความคล่องแคล่วช่วยทีมหนี ดิเอโก้แสดงฝีมือการต่อสู้เบื้องต้น แต่สุดท้ายก็ถูกจับไปหนึ่งคน (อเลฮานดร้า) กลายเป็นแรงผลักดันให้โดร่าต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเพื่อน ท้ายที่สุดทีมของโดร่าก็มาถึงเมืองที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ภูเขาไฟ เมืองทองคำโซล โดราโดส่องประกายสว่างไสวด้วยแสงอาทิตย์ที่สะท้อนทองคำทั่วเมือง ฉากนี้ถือเป็น highlight ของเรื่อง งานสร้างวิจิตรตระการตา ใช้ CG ผสมฉากจริงอย่างยิ่งใหญ่ แต่ความสุขอยู่ไม่นาน วิกเตอร์และลูกน้องก็ตามมาถึงและจับตัวโดร่าพร้อมเพื่อน ๆ บังคับให้เปิด “กุญแจแห่งพระอาทิตย์”

เมื่อกุญแจถูกเปิด พลังงานโบราณพลุ่งพล่าน วิกเตอร์พยายามครอบครอง แต่พลังกลับย้อนทำลายเพราะหัวใจที่เต็มไปด้วยความโลภ เมืองเริ่มถล่ม โดร่าและเพื่อน ๆ ต้องแข่งกับเวลาเพื่อหนีออกมาและช่วยชาวเผ่าโบราณที่คอยพิทักษ์เมือง ในฉากไคลแมกซ์โดร่าใช้ทั้งความกล้าและสติปัญญา ร่วมมือกับเพื่อน ๆ หยุดยั้งวิกเตอร์ได้สำเร็จ ก่อนที่เมืองจะปิดตายอีกครั้งตลอดกาล แม้พวกเขาไม่ได้สมบัติทองคำติดมือกลับมา แต่โดร่าพูดกับเพื่อน ๆ ว่า “สิ่งที่เราได้เจอระหว่างทาง มันมีค่ากว่าทองคำเสียอีก นั่นคือมิตรภาพ ความกล้า และความทรงจำที่จะอยู่กับเราตลอดไป” ภาพยนตร์ปิดฉากด้วยการที่โดร่ากลับไปมหาวิทยาลัย พร้อมเขียนบันทึกการผจญภัยเล่มใหม่ เพื่อรอการเดินทางครั้งต่อไป

รูปแบบสไตล์หนังเรื่อง Dora and the Search for Sol Dorado (2025)

สไตล์หนังเรื่อง Dora and the Search for Sol Dorado (2025) ยังคงกลิ่นอายความสดใสเหมาะสำหรับครอบครัว แต่เพิ่มความเข้มข้นด้านแอ็กชันมากขึ้น แรงบันดาลใจจาก Indiana Jones และ Tomb Raider ทั้งด่านปริศนา, วิหารลับ, และการไล่ล่า ใช้การถ่ายทำในป่าจริงผสมกับ CG ทำให้โลกของโซล โดราโดดูมีชีวิตและน่าตื่นตาตื่นใจ ผสมผสานระหว่างซาวด์ทรอปิคอลสดใสกับออเคสตร้าขนาดใหญ่ สร้างอารมณ์ผจญภัยเต็มเปี่ยม

สรุปรีวิวหนัง Dora and the Search for Sol Dorado (2025)

Dora and the Search for Sol Dorado (2025) ไม่ได้เป็นเพียงหนังผจญภัยหาสมบัติ แต่เป็นการเติบโตของตัวละครโดร่าอย่างเต็มตัว จากเด็กหญิงนักสำรวจกลายเป็นผู้นำทีมที่ใช้ทั้งความกล้า ความฉลาด และหัวใจที่บริสุทธิ์พาเพื่อน ๆ ฝ่าฟันอุปสรรค สิ่งที่หนังพยายามสื่อคือ “สมบัติที่แท้จริง” ไม่ใช่ทองคำหรือพลังอำนาจ แต่คือมิตรภาพ ความทรงจำ และการเดินทางที่เราได้เรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งสอดคล้องกับเสน่ห์ดั้งเดิมของ Dora ที่เน้นการเรียนรู้และความอบอุ่น